เชียงใหม่หน้าร้อน "เที่ยวตามใจ ไปตามกูเกิ้ล"
00:43
สายการบินโลว์คอสต่างพากันลดราคา ยั่วให้อยากออกไปท่องเที่ยวเสียเหลือกัน
หากเที่ยวในประเทศไทยแล้ว เรแนะนำให้เที่ยววันธรมดา
คนไม่เยอะ ไม่ต้องแย่งกัน ค่าเครื่องค่าที่พักก็ถูกกว่า
เที่ยวเชียงใหม่ครั้งนี้ ไปหน้าร้อน ยิ่งปีนี้น้ำแล้งมากๆ
ก็หวั่นนิดๆ ว่าจะมีอะไรให้เที่ยวมั้ย
เซิชๆๆๆ กูเกิ้ล อยากไปไหนบ้าง ที่ไหนพอจะไปเที่ยวได้บ้าง
ไปไม่ต้องเยอะที่ เอาที่สบายใจ ชิลๆ
ไม่ต้องหรู แต่ก็ไม่ประหยัดขัดสน จ่ายน้อยสุดชนะ!
ไปกันแค่ 2 คน เรจะสรุปราคารวมต่อคนไว้ตอนท้าย
ใครอยากไปไหนก็ไป เอาที่ถูกจริตของแต่ละคนนะครับ
ครั้งนี้จองกับ Air Asia Go
ค่าเครื่อง + ที่พัก 2 คืน รวมค่ารูดบัตร
คนละ 1,605 บาท
ขึ้นเครื่องที่สนามบินดอนเมือง 10.20น
ตอนนี้เค้าเปิดเทอมินอลใหม่แล้วนะ ในประเทศอยู่เทอมินอล 2
เชคอินล่วงหน้าผ่านแอพแล้ว แต่ระบบมีปัญหา
รูปไม่ขึ้น ปริ้นบอร์ดดิ้งพาสที่ตู้ไม่ได้ ต้องไปที่เคาน์เตอร์อีก
ขึ้นเครื่องที่ไร ต้องวิ่งไฟนอลคอลแทบทุกที ไม่มีเวลาถ่ายรูปเล่นเลย
นั่งเครื่องแป๊บเดียวเอง แค่ชั่วโมงนิดๆ ก็มาถึงเชียงใหม่ละ
เร็วกว่านั่งแท๊กซี่มาสนามบินซะอีก
เที่ยวครั้งนี้จะออกไปจากตัวเมืองด้วย เลยตัดสินใจเช่ารถ
ยิ่งไปกันหลายๆคน หารกันยิ่งคุ้ม
รถเช่ามีหลายที่มากๆ เรแนะนำ กานต์ รถเช่า
มีหลายจังหวัดมาก ลองเข้าไปในเวปไซต์ได้
แต่ครั้งนี้ มีคนรู้จักให้เช่ารถอยู่เชียงใหม่ เลยได้ราคาพิเศษ
ขอแปะนิดนึงนะ http://aaleaseandrent.com/
เช่า 2 วันครึ่ง 2000 บาท
มัดจำ 3000 บาท ไม่ต้องใช้บัตรเครดิต
จะขับไปที่ไหน ก็ขับไปตามกูเกิ้ลแมพ
ใส่ชื่อ ขับไปตา,ทาง ซอยเล็กซอยน้อย รู้หมดเลย
คำแนะนำ : ถ้าถนนใหญ่ทางหลักแล้วขับเลย เค้าจะหาทางกลับรถให้
แต่ถ้าเป็นทางเล็ก หรือในซอย ให้หาที่กลับรถเลย ไม่งั้นอ้อมอิ๋บอ๋าย
รับรถเสร็จ ก็ไปกินข้าวเที่ยงกันเลย
ประเดิมด้วยอาหารเหนือกันเลยเน้อ
"เฮือนม่วนใจ๋" 10/10
น้ำพริกหนุ่ม, ลาบคั่วหมู, ข้าวกั๋นจิ้น, แกงยอดมะพร้าวอ่อน, ตำขนุน
อร่อยมากกก ลาบคั่ว กับ ตำขนุน นี่ต้องจัดให้ได้ ห้ามพลาด
มื้อนี้ 380 บาท
อิ่มท้องแล้ว ก็ไปเชคอินโรงแรม
ที่พักครั้งนี้ B2 Green อยู่ในซอยหน่อย ใกล้ๆห้างเมย่า
เรามีรถ ที่พักอยู่ในซอยก็ไม่ใช่ปัญหา
โลเคชั่นดี ไปไหนก็สะดวก ไม่ได้อยู่กลางเมือง รถไม่ติดเท่าไหร่
ห้องพักก็ง่ายๆ สบายๆ หมอนนิ่มไปหน่อย
ที่อาบน้ำไม่แยกเปียกแห้ง อาบไปต้องวิดน้ำไป น้ำจะนองเอา
เก็บของเรียบร้อย ก็ขับออกไปเที่ยวกันเลย
ที่แรก แคนยอน เชียงใหม่
ซอยทางเข้าไม่มีป้ายนะ ไปตามกูเกิ้ลไม่หลงแน่นอน
เป็นบ่อน้ำที่เกิดจากกาขุดดินลงไปลึก มีอยู่หลายจังหวัด
เสียค่าเข้า 50 บาท
ก็ไม่ค่อยมีอะไร ฝรั่งมาโดดน้ำเล่นกัน แต่น้ำสีสวยดี
อยู่แป๊บเดียวพอ แล้วไปต่อกันที่
อุทยานแห่งชาติ ออบขาน
ทางเข้าถนนราดยางดี มีขรุขระเล็กน้อย ฝั่งละ 1 เลน ต้องระมัดระวังเพราะ
มีป้าย "โค้งอันตราย" ตลอดเส้นทางเลย
ไม่เคยขับอะไรแแบบนี้เลย ครั้งแรกตื่นเต้นดี ลุ้นไปกับยาริส
แต่ก็มาถึงที่หมายอย่างปลอดภัย
คนไม่เยอะดี ชอบๆ จะโพสท่าถ่ายรูปก็เต็มที่
ธรรมชาติสร้างมาให้เป็นหินแบบนี้
เดินเข้าไปลึกๆ ก็ลำบากนิดหน่อย ต้องปีนป่าย
ใครจะลงไปแช่น้ำก็ลงไปเลย
ถ้าไม่อายก็ถอดเหลือแต่เกงในซะ
ยิ่งเดินไปลึก คนยิ่งน้อย
ปีนป่ายไปถ่ายรูป Wanna be on Top กันหน่อย
จิกให้กล้องแตก
หินลื่นนะ ระวังๆ
เดินไปเดินกลับก็เหงื่อแตกเหมือนกันนะ อากาศมันร้อน
พอใจแล้วก็ขับรถกลับ
ไปหาข้าวกินที่หลังมช.
เดินดูของ บางอย่างนี่ถูกกว่ากรุงเทพอีกนะ
วันอาทิตย์มีถนนคนเดิน อยู่ตรงประตูท่าแพ
ที่จอดรถหายากนะ เดินเอาหน่อย
ร้านเริ่มเก็บของตอน สี่ทุ่มครึง
เหนื่อยละ จบวัน กลับห้องนอน
-----------
วันที่ 2 ตื่นตามใจ ไม่รีบๆ
กว่าจะอาบน้ำแต่งตัวเสร็จก็ 11 โมงละ
มื้อนี้ไปกินที่ร้าน
"สวนผัก โอ้กะจู๋" 9/10
ผักสดๆ อาหารดีมาก ชอบๆ
มีทั้งโซนห้องแอร์และด้านนอก
คือไปตอนเที่ยงก็อยากนั่งห้องแอร์แต่ต้องรอคิว
เดินไปดูด้านหลังติดสวน ทำเป็นโรงเรือนมีน้ำไหลจากเพดาน
ไม่มีคนนั่งเลย ไม่น่าจะร้อน เลยเปลี่ยนใจไปนั่งดู
มันไม่ร้อนจริงๆนะ ติดสวนผักที่ทางร้านปลูกไว้
อาหารจานใหญ่มากกก
ความที่ไม่เคยกิน ตอนแรกเข้าไปมีอยู่โต๊ะเดียว
ความหิวก็บังตา 2 คน 3 จานหลัก + 2 จานรอง
อร่อยนะ แต่ไม่ไหวจะยัดแล้วจริงๆ
สลัดผลไม้ ต้องโดน อะไรมันจะหวานฉ่ำขนาดนั้น
มื้อนี้โดนไป 930 บาท
วันนี้เราจะขับไปแม่กำปอง หมู่บ้านบนภูเขา สโลว์ไลฟ์กันหน่อย
ขับไป 50 กว่ากิโลนะ ต้องขึ้นเขาอีกเช่นกัน
ทางแคบเหมือนเดิม แต่ราดยางอย่างดี
พร้อมกับป้าย "ทางโค้งและลาดชัน" ตลอดทางเลยจ้า
ชันมาก ยิ่งใกล้ถึงยิ่งชันมากมาก
เมื่อวานว่าลุ้นแล้ว นี่ลุ้นยิ่งกว่า บางช่วงเหยียบแทบมิด
มันค่อยๆขึ้นกระดึ้บๆ ยาริสผ่านมาได้ ก็ไม่ต้องกลัวไรละ
ขับเลยขึ้นมาที่ร้าน "ชมนก ชมไม้"
ชมวิวหมู่บ้านท่ามกลางหุบเขาเบื้องล่าง
ถึงแม้แดดจะร้อนแผดเผา
แต่ภายในร้านมีลมพัดเอื่อยๆ สบายอารมณ์
กาแฟจากเมล็ดกาแฟที่ปลูกเองบนดอย
จะถ่ายรูปแอ๊บชิลขนาดไหน แต่ปลายเท้าก็จิก -.-
ขับกลับลงมาจะผ่านวัดคันธาพฤกษา ที่มีศาลากลางน้ำ
น้ำใสไหลเย็น บรรยากาศดี๊ดี มีเสียงน้ำไหล
ไม่ห่างกันนัก ร้านที่ทุกคนต้องแวะมา
"ลุงปุ๊ด ป้าเป็ง"
ร้านกาแฟน่ารักๆ สร้างให้เข้ากับธรรมชาติ
ด้านหลังอยู่ติดกับลำธาร
กินชากินขนมพร้อมฟังเสียงน้ำ นี่มันสบายใจจริงๆนะ
ที่นี่มีโฮมสเตย์ให้มาพักด้วยนะ มีหลายที่เลย
อยากให้รีบๆมากัน เพราะตอนนี้ก็เห็นปลูกบ้านกันเยอะเลย
กลัวว่าความชิล ความธรรมชาติจะหายไปเร็วๆนี้
กลับมาเริ่มเย็นแล้ว
แวะไปดอยสุเทพ มากี่ครั้งก็ต้องมาสักการะทุกครั้ง
มื้อเย็น ไปกินร้านอาหารริมแม่น้ำปิง
"Good View" 7/10
ร้านนี้แปลก มีทั้งบาร์ และร้านอาหารอยู่ในที่เดียวกัน
ต้องอายุ 20 ปีขึ้นไปถึงจะเข้าได้นะ
วิวดีนะ แต่แสงไฟน้อยไปหน่อย
ดันไปสั่งปลามากินอีก ก้างทิ่มอามณ์เสีย
----------
วันที่ 3 ตื่นสายเหมือนเดิม
เที่ยงแล้วไปกินบุฟเฟ่ขนมจีน
"ขนมจีน บ้านเจ็ดยอด" 5/10
คนเยอะนะ แต่ไม่อร่อยอ่ะ ไม่ถูกปากเลย
ของมีมาเติมตลอด พนักงานแข็งขันมาก
ขับรถไปกินขนมหวานล้างปากซะหน่อย
ขอกินหรูซักมื้อ "ดารา เทวี" 9/10
อร่อยดี มาตรฐานสูง ราคาก็เช่นกัน
โดนไปเหนาะๆ 790 บาท
แล้วก็ไปซื้อของฝาก กาดวโรรส
ถ่ายรูปเล่นที่ประตูท่าแพ
เดินเล่นนิมมาน
แวะกินติม iberry
ปิดท้ายด้วยอาหารเหนืออีกครั้ง
"ต๋อง เต็ม โต๊ะ" 9/10
อร่อยดีนะ แถวนิมมานมี่ร้านน่ากินเยอะแยะเลย
จบทริปบริบูรณ์
รวมค่าใช้จ่ายต่อคน
ค่าเครื่อง+ที่พัก 1605
รถเช่า 2000/2 = 1000
ค่าน้ำมัน 800/2 = 400
ค่ากินทั้งหมด 1970
รวม 4975 บาท
ถ้าไปกับเพื่อนๆ ก็หารค่ารถค่าน้ำมันถูกลงไปอีก
ออกไปท่องเที่ยวกันเถอะ
It is not the DESTINATION, but the JOURNEY
0 comments