รีวิว : น่าจะเจอกันมาตั้งนาน! Vitamin C powder 100%

02:47

วิตามินซี ใครๆก็รู้ว่ามีประโยชน์มากมาย ทั้งการต้านอนุมูลอิสระ 
กระตุ้นการสร้างคอลลาเจน ลดการอักเสบ 
ช่วยลดจุดด่างดำและปรับสีผิวที่หมองคล้ำจากแสงแดดให้ขาวขึ้นได้ 
แต่จะหาเซรั่มวิตามินซีเข้มข้น ที่หวังผลได้นั้น ก็มีราคาสูงลิบเสียเหลือเกิน
เพราะอะไร?

Vitamin C ในรูปแบบของ L-Ascorbic Acid 
ไม่ค่อยเสถียรและเสื่อมได้ง่าย 
เมื่อโดน แสง อากาศ ความร้อน และ น้ำ 
ทำให้ต้องหาวิธีช่วยต่างๆ ไม่ให้วิตามินซีเสื่อมภาพเร็ว 
ทั้งส่วนผสมที่ใส่มาช่วยให้คงคุณค่าของวิตามินซีไว้ 
หรือการออกแบบบรรจุภัณฑ์ให้โดนแสง อากาศน้อยที่สุด

แต่ไม่ว่ายังไง 
ผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมหลักเป็นวิตามินซี
ก็มีโอกาสที่จะเสื่อมสลายได้อยู่ดี
โดยวิธีสังเกตุง่ายๆคือ ผลิตภัณฑ์จะเปลี่ยนเป็นสีเหลือง 
หมายถึงการเสื่อมสลายของวิตามินซี 
ทำให้คุณสมบัติในการเป็นสารอนุมูลอิสระไม่มีประสิทธิภาพ
บางรายอาจจะโกงโดยการผสมสีเนื้อครีมเป็นสีเหลือง
ควรเลี่ยงไปเลยไม่ต้องใช้ เพราะเจตนาไม่ดีตั้งแต่ต้น

วิตามินซี เป็นดั่งสาวงามที่รู้ตัวว่ามีดี เลยเล่นตัวซะเยอะ
นางมีฤทธิ์เป็นกรดอ่อน ค่า PH ต่ำ ทำให้ผิวที่บอบบางหรือผิวแห้งนั้น อาจจะแสบได้
แต่ถ้าปรับค่า PH ให้เป็นกลาง ประสิทธิภาพและการดูดซึมก็จะน้อยลงไปอีก

นางเป็นวิตามินที่ละลายน้ำได้ดี แต่เมื่อโดนน้ำก็จะเสื่อมสภาพเร็วไปอีก

นางเยอะ นางย้อนแย้ง ยำไย แต่ของมันดีอะ
ยิ่งยาก ยิ่งอยากได้ มันท้าทายดี!

แต่ที่เรจะมารีวิววันนี้ ไม่ใช่เซรั่ม หรือครีมบำรุง แต่เป็น 
วิตามินซี 100% แบบผง 
ที่เราสามารถมาผสมกับโทนเนอร์หรือน้ำตบที่เราใช้อยู่
เพื่อให้ได้คุณค่าของวิตามินซีได้อย่างเต็มเปี่ยม
Adjuvant C Bright: Pure Vitamin C Powder



ข้อมูลจากเวปไซท์:
"Pure Vitamin C powder แท้สกัดบริสุทธิ์จากวัตถุดิบที่ได้มาจากธรรมชาติไม่ผ่านการตัดแต่งพันธุกรรม (GMO free) เป็นวิตามินซีแท้ๆสกัด 100% ตามมาตรฐานทางเภสัชกรรม (BP,USP,FCCIX) ผ่านการตรวจสอบคุณภาพมาตรฐานโดยห้องปฏิบัติการทั้งในและต่างประเทศ"

วิตามินซีแบบผง ดียังไง?
เราสามารถผสมใช้แบบครั้งต่อครั้งได้ทันที 
ทำให้การ oxidation ยังไม่เกิดจนถึงขั้นเสื่อมสภาพ
ประสิทธิภาพของวิตามินซียังอยู่ครบถ้วน ประโยชน์ที่ได้รับก็จะเต็มที่

ตัวผลิตภัณฑ์มาในขวดสีชาและมีสติ๊กเกอร์ปิดอีกชั้นหนึ่ง พร้อมซีลพลาสติก
เปิดฝาแล้ว ด้านในจะมีรูเล็กๆไว้เทผงวิตามินซี ซึ่งช่วยให้อากาศเข้าไปได้น้อยลงด้วย

วิธีใช้ก็ไม่ยุ่งยากเลย แค่เพิ่มขั้นตอนมานิดหน่อย
เทผงวิตามินซีประมาณเมล็ดถั่วเขียว ผสมน้ำสะอาด หรือน้ำตบ เซรั่มที่ใช้อยู่เดิม
นิ้วถูวนๆให้ผงละลาย แค่แป๊บเดียว แล้วก็ทาทั่วหน้า ตบๆ ตามปกติเลย

ผลการใช้
เรใช้ C Bright ผสมกับน้ำตบที่ใช้อยู่เดิมแล้ว โดยไม่ได้เพิ่มอะไรมาอีก 
ไม่ได้ทายาแต้มสิว ไม่ได้มาส์กหน้า ในช่วงทดลอง 7 วัน
(พยายามควบคุมองศาและแสงให้เท่ากันแล้ว)





เรใช้แล้วไม่มีอาการแสบใดๆ ทั้งสิ้น (หน้าคงหนา!)
สิวที่โหนกแก้มที่เห็นแดงๆขึ้นมาพอดี 
แค่ 3 วัน ก็แห้งและสะกิดออกได้เลย
หลังจากใช้ 7 วัน รอยสิวดูจางลง
รูขุมขนดีขึ้นนิดนึง 
เรื่องความกระจ่างใส เห็นได้ชัดเจนที่สุด
คือส่องกระจกแล้วรู้สึกได้เลย ว่าใสขึ้นมาก
ถือว่าได้ผลดีเลยทีเดียวกับการใช้เพียง 7 วัน


มาดูกันที่ความคุ้มค่าบ้าง 
เห็นขวดนิดเดียว แต่เทียบการใช้ต่อครั้งแล้ว คุ้ม!
ขวด 5 กรัม 490 บาท
ใช้ครั้งละเท่าเมล็ดถั่วเขียว ประมาณ 20 มิลลิกรัม วันละ 2 ครั้ง
เท่ากับว่าใช้ได้ 250 ครั้ง หรือ 125 วัน หรือ 4 เดือนกันเลยทีเดียว
แต่ยังไงก็ควรสังเกตด้วยว่า ผงวิตามินซีเริ่มเปลี่ยนสีรึยัง เพราะอาจจะเสื่อมสภาพก่อนได้

ปริมาณที่ใช้สามารถปรับเปลี่ยนได้แล้วแต่คนเลย โดยสัดส่วนวิตามินซี คือ 5% - 20%
ใครที่ผิวบอบบางก็ผสมน้อยๆก่อนนะ เพราะบางรายอาจจะเกิดอาการแสบได้
ถ้าแสบเล็กน้อยตอนที่ทา ไม่ใช้อาการแพ้ แต่เป็นปกติเพราะว่าวิตามินซีเป็นกรดอ่อน
ให้ใช้ปริมาณน้อยๆ จนกว่าจะไม่แสบ แล้วค่อยเพิ่มสัดส่วนขึ้น แต่ก็ไม่ควรเกิน 20%
หรือจะผสมน้ำ ทาตัว ข้อศอก ง่ามขา ก็แล้วแต่จะใช้เลยจ้า


บางรายอาจจะมีอาการแพ้วิตามินซี 
ซึ่งแล้วแต่บุคคลนะครับ ไม่สามารถตอบได้ว่าจะแพ้รึเปล่า


(มีความว่างเลยวาดรูปเล่น ^^)


รายละเอียดเพิ่มเติม : https://www.facebook.com/adjuvantthai/

You Might Also Like

0 comments